เมื่อเร็วๆ นี้ Figma ได้เปิดตัวการอัปเดตครั้งใหญ่ในการประชุม #Config2024 สิ่งสำคัญคือการบูรณาการฟังก์ชัน AI อย่างครอบคลุม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสรรค์กระบวนการออกแบบและปรับปรุงประสิทธิภาพ การอัปเดตนี้ครอบคลุมหลายแง่มุม เช่น การสร้างการออกแบบ การสร้างต้นแบบ การค้นหาด้วยภาพ การแทนที่เนื้อหา การเปลี่ยนชื่อเลเยอร์ ฯลฯ ซึ่งช่วยให้การทำงานของนักออกแบบง่ายขึ้นอย่างมาก ช่วยให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของการออกแบบ การเพิ่มคุณสมบัติใหม่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Figma ในด้านการออกแบบโดยใช้ AI
ในการประชุม #Config2024 เมื่อเร็วๆ นี้ เครื่องมือออกแบบชื่อดัง Figma ได้เปิดตัวชุดฟีเจอร์ใหม่ที่สะดุดตา โดยที่สะดุดตาที่สุดคือการผสานรวมฟีเจอร์ AI ใหม่ คุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการออกแบบและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยให้นักออกแบบมุ่งเน้นไปที่ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น
คุณสมบัติหลักของ Figma AI ได้แก่ :
การสร้างการออกแบบ: สร้างแบบร่างการออกแบบเริ่มต้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับความคิดสร้างสรรค์ การสร้างต้นแบบ: แปลงการออกแบบแบบคงที่ให้เป็นต้นแบบเชิงโต้ตอบได้ด้วยคลิกเดียว ซึ่งช่วยลดงานเดินสายที่น่าเบื่อได้อย่างมาก การค้นหาด้วยภาพ: ค้นหาการออกแบบที่คล้ายกันหรือการจับคู่แบบตรงทั้งหมดภายในทีมของคุณได้อย่างรวดเร็วโดยการอัพโหลดภาพ การแทนที่เนื้อหา: สร้างและแทนที่เนื้อหาข้อความโดยตรงในร่างการออกแบบเพื่อทำให้การออกแบบใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้นการเปลี่ยนชื่อเลเยอร์: เปลี่ยนชื่อและจัดระเบียบเลเยอร์อย่างชาญฉลาดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันเป็นทีม
นอกจากนี้ Figma ยังได้เปิดตัวเครื่องมือสไลด์โชว์ใหม่ Figma Slides (Flides) ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันเลย์เอาต์อัตโนมัติที่ปรับให้เหมาะสม การอัปเดตอื่นๆ ได้แก่ การอัพเกรดเป็นโหมด Dev (เช่น Ready for Dev View, Focus View ฯลฯ) การเปิดตัว Code Connect เวอร์ชันอย่างเป็นทางการ การปรับปรุง Auto Layout และคุณสมบัติใหม่ เช่น FigJam Pages
คุณสมบัติ AI ของ Figma ได้รับการออกแบบมาเพื่อขจัดอุปสรรคในขั้นตอนการออกแบบ ช่วยให้นักออกแบบสามารถมุ่งเน้นไปที่รายละเอียดที่สำคัญจริงๆ ตั้งแต่แบบร่างแรกไปจนถึงผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ผู้ช่วย AI ของ Figma ช่วยให้นักออกแบบทำงานเสร็จเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาทรัพยากรที่ต้องการอย่างรวดเร็วผ่านการค้นหาด้วยภาพ การใช้ AI เพื่อสร้างภาพร่างการออกแบบ หรือการเปลี่ยนชื่อเลเยอร์และการแปลข้อความโดยอัตโนมัติ ฟังก์ชัน AI ของ Figma สามารถทำให้กระบวนการออกแบบราบรื่นขึ้น
การอัปเดตนี้จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่อุตสาหกรรมการออกแบบอย่างไม่ต้องสงสัย ช่วยให้นักออกแบบสามารถเปลี่ยนแนวคิดให้กลายเป็นความจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ในเชิงลึกในเครื่องมือออกแบบ เราคาดหวังว่าจะได้เห็นงานออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากขึ้น
การอัปเดต Figma นี้ไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสิทธิภาพการออกแบบเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่แข็งแกร่งในด้านการออกแบบอีกด้วย ในอนาคต เราจะได้เห็นการเกิดขึ้นของเครื่องมือการออกแบบที่ใช้ AI และแอปพลิเคชันที่เป็นนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าของ อุตสาหกรรมการออกแบบ